คนล้านนาเรียกข้าวเป็นเสียงสั้นว่า “เข้า” เข้าใหม่จึงหมายถึงข้าวที่เก็บเกี่ยวเสร็จใหม่ๆ
ข้าวทุกชนิด มีฤดูกาลปลูกและเก็บเกี่ยวของมันเอง เรียกว่าข้าวนาปี คือปลูกและเก็บเกี่ยวครั้งเดียวต่อปี โดยจะเริ่มปักดำ หรือหว่านในช่วงต้นฤดูฝน ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม และเริ่มเก็บเกี่ยวได้ในเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม
ข้าวที่เก็บเกี่ยวแล้วนำออกมาจำหน่ายในแต่ละปีเราจะเรียกว่าข้าวใหม่ จนกระทั่งข้าวจากฤดูกาลใหม่หรือปีถัดไปถูกเก็บเกี่ยวนำออกจำหน่าย ข้าวของฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่ผ่านมาจะกลายเป็นข้าวเก่า
ข้าวใหม่ เมื่อนำมาขัดสีเมล็ดข้าว จะมีสีขาวใส จมูกข้าวยังติดกับเมล็ดข้าวอยู่ มียางข้าวมาก และมีกลิ่นหอม
ส่วน ข้าวเก่า คือข้าวที่เก็บไว้นานค้างปี หรือเก็บเกี่ยวนานมากกว่า 4-6 เดือน แล้วจึงค่อยนำมาขัดสี เมล็ดข้าวจะมีสีขาวขุ่น มีรอยแตกหักบ้างเล็กน้อย
เมล็ดข้าวไม่เกาะติดกัน เพราะมียางข้าวน้อย และจะแข็งกว่าข้าวใหม่
นับแต่สมัยพุทธกาล พุทธศาสนิกชนเชื่อว่า ข้าวคือเมล็ดพืชพันธุ์ที่มีความเกี่ยวพันกับศาสนา ไม่ว่าการเข้าพรรษา การถวายข้าวมธุปายาส
และเรื่องราวของข้าวยังเป็นต้นเรื่องของประเพณี ความเชื่อ วัฒนธรรมอีกมากมายหลากหลายในพื้นที่แหล่งเพาะปลูกข้าว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย มีประเพณี พิธีกรรม ที่ร้อยเรื่องราวของข้าวเชื่อมโยงกับความเชื่อ ศาสนา และรูปแบบวิถีเผ่าพันธุ์ท้องถิ่น
ดินแดนล้านนามีการถวายทานข้าวใหม่ ในวันเพ็ญเดือน 4 เหนือ ซึ่งเป็นประเพณีที่มีการสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน และบางที่ก็มีชื่อเรียกเฉพาะของแต่ละท้องถิ่น เช่น ตานข้าวใหม่ ตานข้าวล้นบาตร หรือ ตานดอยข้าว เป็นต้น
ในการตานข้าวใหม่ คือมีการถวายทานข้าวเปลือก ข้าวสาร ข้าวนึ่ง หรือนำข้าวไปทำเป็น ข้าวหลาม ข้าวหนุกงา (ข้าวผสมกับงาขี้ม้อน) ข้าวจี่ และขนมต่างๆ ที่ทำจากข้าว เช่น เข้าหนมปาด เข้าหนมเกลือ เข้าหนมจ็อก (ขนมเทียน) เข้าต้มกะทิ (ข้าวต้มมัด)
โดยเรียกชื่อประเพณีให้คล้องจองกัน เพื่อจำง่าย ว่า “เดือนสี่ตานเข้าจี่เข้าหลาม”
ประเพณีการถวายทานข้าวใหม่ถือเป็นกุศโลบายของคนโบราณล้านนา ที่สอดแทรกคำสอนลูกหลานให้มีความกตัญญูกตเวทิตาต่อผู้มีพระคุณ โดยอาศัยฤดูหลังการเกี่ยวข้าวเป็นช่วงทำบุญดังกล่าว
นอกจากการไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับ และนำข้าวเปลือก ข้าวสาร ที่ได้จากการเก็บเกี่ยวไปถวายพระสงฆ์แล้ว
ส่วนหนึ่งก็นำไปให้ญาติผู้เฒ่าผู้แก่ที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวที ที่บุคคลเหล่านี้ได้บุกเบิกแผ้วถางผืนป่าที่รกร้าง มาเป็นท้องทุ่งเป็นแหล่งผลิตข้าวกล้า เป็นอู่ข้าวอู่น้ำมายังชนรุ่นหลัง
ในช่วงหน้าหนาว หลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวนี้มักจะได้ยินคำว่า “หอมข้าวใหม่” เป็นกลิ่นหอม เป็นประเพณี และเป็นฤดูกาลการบริโภคข้าวใหม่ เพราะนอกจากกลิ่นหอมหวาน ความอ่อนนุ่มของข้าวนึ่งแล้ว ยังมีงาขี้ม้อน ได้กินข้าวหนุกงา มีไม้ข้าวหลาม ได้กินข้าวหลามที่ทำจากข้าวใหม่ เป็นข้าวหลามที่หอมกรุ่น อร่อย ยิ่งนั่งล้อมวงผิงไฟแก้หนาวไปด้วย เผาข้าวหลามไปด้วย เป็นความสุข เป็นความอร่อยที่หาได้ปีละครั้งเท่านั้น
ข้าวใหม่ จึงเป็นตัวแทนของวิถีชุมชนและธรรมชาติที่เกื้อกูลกัน โดยมีพิธีกรรม ประเพณี ความเชื่อและศาสนา มาเชื่อมโยง รวมทั้งเป็นการแสดงความกตัญญูถึงคุณบิดามารดาผู้ล่วงลับ คุณของชาวนาชาวไร่ คุณธรรมชาติ ผืนดิน สายน้ำและฤดูกาลที่ให้ความอุดมสมบูรณ์ ในการอยู่ดีกินดีของผู้คนเหล่านั้น
5 อย่างที่จะได้จากวัดหนองก๋าย
ที่ทุกคนที่มาเยี่ยมชมวัดนั้นจะได้พบอย่างแน่นอน
บุญที่สร้างตอนไหนก็ได้
การที่วัดหนองก๋ายเปิดตลอด 24 ชั่วโมงนั้น เพื่อต้อนรับผู้ที่กำลังสั่งสมบุญทุกท่าน จะเข้ามาเยี่ยมชม เข้ามาทำบุญ ตอนไหน เมื่อไหร่ก็ได้ ตามจิตศรัทธาของทุกท่าน
หลวงพ่อใหญ่ชัยมงคล
พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ มีอายุเก่าแก่ยาวนานผู้คนที่เข้ามาขอพรกับหลวงพ่อใหญ่ชัยมงคล จะได้รับความสำเร็จสมดังใจปรารถนากันทุกๆ คน
รวมการทำบุญไว้ในที่เดียว
มีพระภิกษุสงฆ์คอยให้คำแนะนำสำหรับการทำบุญต่างๆ ถวายสังฆทาน ทำบุญวันเกิด ทำบุญทุกอย่างตามที่ใจของท่าน อยากที่จะให้เกิดกุศลในตอนนั้น
ท้าวเวสสุวรรณ
หากท่านได้เดินเข้ามายังวัดหนองก๋ายสิ่งแรกที่จะเห็นในตอนนี้คือ "ท้าวเวสสุวรรณ" ของทางวัดหนองก๋าย ซึ่งประดิษฐานเด่นเป็นสง่า พร้อมให้ทุกท่านได้มาขอพร ปกป้องให้พ้นจากภัยต่างๆ ในชีวิต
แวะพักผ่อน
สำหรับผู้แสวงบุญ นักเดินทางที่ต้องการที่พักสำหรับการเติมพลังก่อนการเดินทางต่อไป ก็สามารถแจ้งความประสงค์เข้าพัก ยังที่รับรองของศูนย์ปฏิบัติธรรมวัดหนองก๋ายได้ตลอด
ช่องทางการติดต่อ
หลวงพ่อใหญ่ชัยมงคล
การขอพรกับหลวงพ่อใหญ่ชัยมงคล วัดหนองก๋าย ซึ่งเป็นพระประธานอายุเก่าแก่นั้นหากเป็นไปได้ควรมาด้วยตนเองในการอฐิษฐานนั้น แนะนำให้เลือกเพียงครั้งละ 1 อย่างเท่านั้น
-
.การตกลงสัญญาต่างๆทั้งในและต่างประเทศ มีผลกำไรราบรื่น ความคล่องตัวทางธุรกิจ การงาน การเงิน สมความปราถนา
-
ร่ำรวย ยศถาบรรดาศักดิ์ มีโชค มีลาภ ริ่เริมทำธุรกิจให้มีสภาพคล่องตัว ในธุรกิจ สำเร็จสมหวังดังใจปราถนาทุกประการ
-
ขจัดสิ่งไม่ดีในชีวิตให้หมดไป ขจัดปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ สุขภาพร่างกายแข็งแรง หมดหนี้ หมดสิน คู่ครองสมหวัง ได้รับความเมตตาจากเจ้านาย ลูกหลานวงศ์ตระกูลมีแต่ความสำเร็จ ตลอดวัน ตลอดเดือน ตลอดปี
ท้าวเวสสุวรรณ
ท้าวเวสสุวรรณ หรือท้าวกุเวร เป็นหนึ่งในท้าวจาตุมหาราชผู้ครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา และเป็นผู้ยิ่งใหญ่ หรือเป็นหัวหน้าในบรรดาท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 นอกจากท้าวเวสสุวรรณก็ยังมี ท้าวธตรฎฐ์ ท้าววิรุฬหก และท้าวท้าววิรูปักษ์ ท้าวทั้ง 4 องค์ประจำอยู่ตามทิศต่าง ๆ ในส่วนของท้าวเวสสุวรรณจะประจำอยู่ทางทิศเหนือ นอกจากนี้ท้าวเวสสุวรรณยังปกครองเหล่ายักษ์ ภูติผีปีศาจ ทำให้คนโบราณนิยมนำรูปท้าวเวสสุวรรณไปแขวนไว้เหนือเปลของเด็กทารก เพื่อป้องกันภูติผี นอกจากนี้ยังใช้ผ้ายันต์รูปท้าวเวสสุวรรณ หรือสลักรูปท้าวเวสสุวรรณไว้บนมีดสัปเหร่อ เพื่อเป็นการสะกดวิญญาณ อีกหน้าที่ของท้าวเวสสุวรรณ คือ เป็นผู้รักษาสมบัติของเทวโลก จึงทำให้ท้าวเวสสุวรรณเป็นมหาเทพแห่งความมั่งคั่ง ร่ำรวยอีกด้วย
เป็นที่นิยม
ท้าวเวสสุวรรณวัดหนองก๋าย
สุดยอดแห่งโชคลาภ สิริมงคล ป้องกันอันตราย
เป็นที่นิยม
ยันต์มหาเศรษฐี มงคลจักรวาล
พกไว้บูชา เป็นมหาเศรษฐี สีทอง และ สีเงิน
ร้านค้าวัตถุมงคล
สั่งซื้อได้ทางแชทหน้าเว็บไซต์ และทางเฟซบุคแฟนเพจวัดหนองก๋าย
ยันต์มหาเศรษฐีมงคลจักรวาล
พิเศษสำหรับผู้ที่ทำบุญกับวัดหนองก๋าย
ในขณะนี้เปิดให้ร่วมบุญชุดใหญ่ ครบ 2 ตารางวา รับฟรี!! แผ่นยันต์ "มหาเศรษฐีมงคลจักรวาล" 1 แผ่น (ส่งฟรี) เลือกสีได้ ทอง/เงิน